วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
30 พ.ย. 67 - 10 ธ.ค. 67 | 149,900 บาท | 35,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
24 ธ.ค. 67 - 03 ม.ค. 68 | 159,900 บาท | 35,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
27 ธ.ค. 67 - 06 ม.ค. 68 | 159,900 บาท | 35,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
31 ม.ค. 68 - 10 ก.พ. 68 | 149,900 บาท | 35,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
11 ก.พ. 68 - 21 ก.พ. 68 | 149,900 บาท | 35,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
13 มี.ค. 68 - 23 มี.ค. 68 | 149,900 บาท | 35,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
18.00 สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 เคาน์เตอร์สาย การบิน เตอร์กิชแอร์ไลน์(Turkish Airlines) พร้อมเจ้าหน้าที่คอยดูแลเช็คสัมภาระและบตัรที่นั่ง บนเครื่อง
23.30 เดินทางสู่กรุงอิสตันบูลโดยสายการบิน เตอร์กิชแอร์ไลน์(Turkish Airlines) เที่ยวบิน TK069
06.10 เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี รอเปลี่ยนเครื่อง
07.55 เดินทางสู่กรุงมาดริด ประเทศสเปนโดยสายการบิน เตอร์กิชแอร์ไลน์ (Turkish Airlines) เที่ยวบิน TK1857
10.25 ถึงสนามบินกรุงมาดริด (MADRID) เมืองหลวงของประเทศสเปน หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร แล้ว เดินทางสู่เมือง “เซโกเบีย” (Segovia) (92 ก.ม.) เมืองมรดกโลกแห่ง แคว้นคาสตีล และเลออน ของประเทศสเปน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหารนําท่านชมเขตเมืองเก่าล้อมรอบด้วยกําแพงที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 8 (บนฐานที่ มั่นของโรมัน) และได้รับการบูรณะในระหว่าง คริสต์ศตวรรษที่ 15 ชม “สะพานส่งน้ําโบราณ (Roman Aqueduct of Segovia) โดยสะพานส่งน้ําแห่ง นี้ถูกสร้างขึ้นในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 1 นําท่าน ถ่ายรูปกับ ‘มหาวิหารแห่งเมืองเซโกเวีย” จากนั้น เดินทางสู่เมือง “บายาโดริด” (110 ก.ม.)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ในโรงแรมที่พัก
ที่พัก : HOTEL NOVOTEL VALLADORID หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารนําท่านชมเมืองบายาโดริค (Valladolid) เมืองหลักของทั้งจังหวัดบายาโดลิดและแคว้นคาสตีล-เลออน เข้า สู่ พลาซามายอร์ (Plaza Mayor) จัตุรัสที่ตั้งอยู่บริเวณ ใจกลางเมืองเก่าเป็นที่ตั้งของสถานที่สําคัญๆ เช่น ศาลาว่าการของเมืองบายาโดลิด, หอนาฬิกา, พิพิธภัณฑ์ และอื่นๆ อีกเป็นจํานวนมาก ชม “โบสถ์ ซานปาโบล (San Pablo Church) โบสถ์เก่าแก่ที่ถูก สร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1445 - 1468 ตัวอาคารโดด เด่นไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค ด้านหน้า ตกแต่งด้วยรูปปั้นและแท่นไม้กางเขนขนาดใหญ่ แวะถ่ายรูปกับ มหาวิทยาลัยบายาโดลิด (University of Valladolid) เป็นมหาวิทยาลัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศสเปน และเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1241 โดยพระเจ้าอัล ฟองโซที่ 8 แห่งคาสติลญ่า // เดินทางสู่เมืองบูร์โกส “Burgos” (120 กม.)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ชมเมืองบูร์โกส อดีตเมืองหลวงของอาณาจักร Castilla-Leon ที่รวมแคว้นกันเป็นเวลาห้าศตวรรษ ซึ่งมีผลงานชิ้นเอก ของสถาปัตยกรรมโกธิกแบบสเปน ‘มหาวิหาร แห่งบูร์โกส (Catedral de Burgos) ซึ่งได้รับเลือก จากองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกใน ปีค.ศ. 1984 มหาวิหารแห่งนี้สร้างอุทิศให้แก่พระแม่มารีสถาปัตยกรรมของมหาวิหารเป็นแบบสถาปัตยกรรม โกธิค ซึ่งรวมถึงโดมที่เต็มไปด้วยดวงดาวซึ่ง ครอบคลุมหลุมฝังศพของ El Cid วีรบุรุษของชาว สเปน วิหารแห่งนี้สร้างในสมัยพระเจ้าเฟอร์นันโดที่ 3 แห่งคาสตีล ในปี ค.ศ.1221 จากนั้นเดินทางสู่ เมืองบิลเบา “Bilbao” (155 กม.)
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร ในโรงแรมที่พัก
ที่พัก : OCCIDENTAL HOTEL, BILBAO หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหาร นําท่านชมเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแค้วนปกครองตนเองหรือแคว้นบาสก์ แวะถ่ายรูปกับ อาคารพิพิธภัณฑ์กุก เกนไฮม์ (Guggenheim Bilbao) ตั้งอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ําเนร์ บีออน เป็นอาคารที่ผู้คนทั่วโลกยกย่องให้เป็นอาคารที่ “น่าทึ่ง” ที่สุดแห่งศตวรรษที่ ชมย่านเมืองเก่า ที่ ล้อมรอบด้วยอาคารเก่าแก่ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ชม วิหารเซนต์เจมส์ “Catedral de Santiago (St. James Cathedral) สไตล์กอทิก เป็นอาคารที่มีความเก่าแก่ ที่สุดในเมืองบิลเบา และโบสถ์เซนต์นิโคลัส “Iglesia 29 de San Nicolas” ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 เป็นศิลปะสไตล์บาโรกผสมผสานกับนีโอคลาสสิกสไตล์ดูหรูหราและ ขรึมขลัง ในอดีตชาวประมงมักจะมาขอพรให้โชคดีก่อนออกเรือทุกครั้ง // เดินทางสู่เมือง ซานติยานา เดล มาร์ “Santillana del Mar” (124 กม.)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ชมเมือง ‘ซานติยานา เดล มาร์' เมืองเล็กของแคว้นกัน ตาเบรีย (Cantabria) เดินเล่นชมเมืองโบราณ ที่มีการ เก็บรักษาอาคารเก่าแก่ไว้ในสภาพที่ดีเยี่ยม อาคาร บ้านเรือน และทางเดิน ยังเป็นหิน ที่สร้างขึ้นในสมัย อดีต ตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 15 // เดินทางสู่ เมืองกิฆอน (Gijon) (150 กม.) ผ่านทัศนียภาพที่สวยงามของแคว้นแอสทูเรีย ชม ‘กิฆอน” เมืองแห่งวัฒนธรรม ย่านเมืองเก่าซึ่งในอดีตเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่ปัจจุบันพัฒนาเป็น ท่าเรือเพื่อการพักผ่อนที่หรูหราทันสมัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมที่พัก
ที่พัก: AC HOTEL, GIJON หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเดินทางสู่เมืองโอเวียโด “Oviedo” (35 กม.) เมืองหลวงที่สวยงามของแคว้นแอสทูเรีย (Asturia) ที่ ผสมผสานความทันสมัยและเมืองเก่าแก่ในศตวรรษที่ 8 ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมของชาวสเปนไว้อย่างแท้จริง ชมย่านเมืองเก่า “Casco Antiguo” ของโอเบียโด ที่ตั้ง ของอนุสาวรีย์พระเจ้าอัลฟองโซ ที่ 2 บริเวณจัตุรัสอัล ฟองโซ เอลคาสโต ชมวิหารแห่งโอเวียโด “Oviedo Cathedral” โบสถ์สไตล์โกธิกนี้ สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึงศตวรรษที่ 16 และได้รับการประกาศให้เป็น มรดกโลกโดยในปี ค.ศ.1998 ชมศาลาว่าการเมืองเก่า สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1622-1623 // จากนั้นเดินทางสู่เมือง “ลูโก้ แวะรับประทานอาหารเมืองระหว่างเส้นทาง
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางถึงสู่เมืองลูโก้ “Lugo” ชมเมืองที่สร้างขึ้น เมื่อกว่า 3,500 ปีมาแล้ว ตั้งอยู่ริมแม่น้ํามิโนและเป็น เมืองที่เจริญรุ่งเรืองในยุคโรมัน เนื่องจากการทํา เหมืองทองทองในบริเวณนี้ในปลายศตวรรษที่ 3 มี การสร้างกําแพงล้อมรอบตัวเมือง มีความยาวถึง 2,266 เมตร มีหอคอย 85 แห่ง กําแพงเมืองที่ถือได้ว่า สมบูรณ์และได้รับการอนุรักษ์ให้คงสภาพมากว่า 1,500 ปี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกลูก เมื่อปี ค.ศ.2000 ชมโบสถ์ซซานตามาเรีย “Catedral de Santa Maria วิหารมีการปรับเปลี่ยนหลายครั้งตั้งแต่การก่อสร้างเดิมในศตวรรษที่ 12 สไตล์โรมัน, กอธิค และแบบบาร็อค ชมศาลาว่าการเมือง ‘Concello de Lugo” ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1738 เป็นหนึ่งในอาคารสไตล์บาโรกที่สวยงามและน่าทึ่งของที่สุดของแคว้นกาลิเซีย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พัก: HOTEL AUDITORIA SANTIAGO & SPA หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเดินทางสู่เมือง “ซานดิเอโก้ เดอ คอมโพสเตลล่า” Santiago de Compostela (100 กม.) นําท่านชม เมือง ศักดิ์สิทธิ์ของชาวคริสต์ เนื่องจากร่างของนักบุญ เจมส์หรือเซ็นต์เจมส์อัครสาวกของพระเยซูถูกฝังไว้ ที่นี่ ถือเป็นเมืองที่มีความสําคัญเป็นอันดับสามใน คริสต์ศาสนา รองจากเยรูซาเรม และกรุงโรม ได้รับ การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1985 ชม “โบสถ์ ซานดิเอโก้ เดอ คอมโพสเตลล่า” โบสถ์สไตล์โรมาน เนส ที่สร้างขึ้นในระหว่างปี 1075-1078 ชมย่านการค้า อาคารโรงแรมพาราดอร์ที่ในอดีตเป็นโรงพาบาลของ
นักแสวงบุญ ปัจจุบันเป็นโรงแรมที่หรูหราสวยงามของเมือง
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นําท่านออกเดินทางสู่เมือง “บราก้า” Braga (185 กม.) เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “โรมแห่งประเทศ โปรตุเกส” นําท่านนั่งรถไฟฟ้าขึ้นสู่เนินเข้า ชมโบสถ์ Bom Jesus do Monte ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดโลกเมื่อปี 2019 ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาตั้งแต่ ปลายศตวรรษที่ 14 อาคารสไตล์นีโอคลาสสิกเรียบ ง่ายที่มีบันไดแบบบาโรก ตกแต่งตกแต่งอย่างสวยงาม ชมเขตเมืองเก่าและเก็บภาพ ‘มหาวิหารแห่งเมืองบราก้า” (Braga Cathedral) วิหารที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง สร้างขึ้นในแบบของการผสมผสาน ศิลปะแบบโกธิคและบาร็อค โดยมหาวิหารถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 3
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก : MERCURE HOTEL CENTRO, BRAGA หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่เมือง ‘ปอร์โต’ Porto (80 กม.) ชมเมืองเก่าแก่สมัยโรมัน และเป็นเมืองศูนย์กลางที่สําคัญทางตอนเหนือของ
ประเทศโปรตุเกส ชมย่านเขตท่าเรือเก่าที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองมากในอดีต ปัจจุบันได้รับขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก ในปีค.ศ.1997 ชมจัตุรัสใจกลางเมืองที่ราย ล้อมด้วยอาคารยุคกลาง เช่น ศาลาว่าการ โบสถ์ ปราสาท ชม ‘มหาวิหารแห่งเมืองปอร์โต (Porto Cathedral) สร้างในศตวรรษที่ 12 นําท่านเข้าชมร้านหนังสือเลลโล ที่สวยที่สุดในโลก Lello & Irmão Bookstore ร้านหนังสือนี้เสมือนเป็นแรงบรรดาลใจให้ J.K. Rowling ใช้เป็น ไอเดียบรรยากาศของห้องหนังสือฮือควอร์ท ในนิยายแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ เมื่อท่านเข้าไปด้านในท่านจะ รู้สึกเสมือนย้อนยุคเข้าไปในบรรยากาศของฮ็อควอร์ทจริงๆ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
อิสระให้ท่านช้อปปิ้งที่ย่าน “Liberty Square” ศูนย์กลางการช้อปปิ้งของเมืองที่รวบรวมไปด้วยร้านค้าชั้นนําต่างๆ และร้านขายของที่ระลึก ให้ท่านได้จับจ่ายซื้อของฝากของที่ระลึกกันอย่างจุใจ นําท่านเดินสู่ ท่าเรือปอร์โต้ นําท่านล่องเรือชมพระ อาทิตย์อัสดง ณ ปากแม่น้ําคูโร (Douro river sunset cruise) ให้ท่านได้เก็บภาพความ งดงามของบรรยากาศริมสองฝั่งแม่น้ําที่เป็นต้อนกําเนิดของพอร์ทไวน์(เอกลักษณ์เฉพาะของปอร์โต้)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมืองพร้อมชิมไวน์รสเลิศ
ที่พัก: EUROSTAR PORTO DOURO หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเดินทางสู่เมืองโคอิมบรา Coimbra (124 กม.) ชมเมืองโคอิมบรา อดีตเมืองหลวงของปอร์ตุเกสในปีค.ศ. 1145 ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือแม่น้ํามอนเด โก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยโรมัน ชมศาลาว่า การ อาคารบ้านเรือนโบสถ์สไตล์บารอก หอนาฬิกา หอสมุดที่เก่าแก่ที่สุดของโปรตุเกส ชมย่านเมืองเก่า ของโคอิมบรา ซึ่งมีตึกเก่าๆ ที่ยังคงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางสู่เมือง “ออบิโดส” Obidos (134 กม.) นําท่านชมเมืองป้อมปราการโบราณ ซึ่งมีประชากรอยู่เพียงหมื่น กว่าคนในปัจจุบัน ชื่อเมืองตั้งมาจากภาษาละติน โบราณ ซึ่งแปลว่า ป้อมปราการอันแข็งแกร่ง ก่อตั้ง ขึ้นโดนอาณาจักรโรมัน และยึดครองโดยแขกมัวร์เมื่อ ช่วงศตวรรษที่ 7 และอีก 400 ปีถัดมาได้ถูกยึดครอง โดย อฟองโซ่ เฮนริค กษัตริย์องค์แรกแห่งโปรตุเกส มีเวลาให้ท่านเดินชมบริเวณเมืองเก่าที่ยังคงอนุรักษ์ ความดั้งเดิมไว้ตั้งแต่รุ่นโบราณ ราวกับว่าวันเวลาจะ หยุดนิ่งอยู่ที่ต้นยุคกลางเมื่อครั้งที่กษัตริย์เดนิสได้ส่งมอบเมืองออบิโดสนี้ให้แก่แม่นางอิซาเบลแห่งอาณาจักรอารากอนเป็นของขวัญวันอภิเษกสมรสเมื่อ ค.ศ. 1282 สมควรแก่เวลาป้อมปราการและปราสาทออบิโดสถูกขนานนามเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส เดินทางกลับสู่กรุงลิสบอน จากนั้นเดินทางสู่เมืองลิสบอน (120 กม.)
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร / นําท่านเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก : HOLIDAY INN LISBON หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
นําท่านเดินทางสู่เมือง “ซินตร้า” SINTRA นําท่านนั่งรถท้องถิ่น (Shuttle bus) ขึ้นสู่จุดทางเข้า “พระราชวังแห่งชาติเปนา” (Pena National Palace) ตัวพระราชวังนั้นมีความหลากหลายทางศิลปะอย่างมากผสมผสานระหว่าง มัวร์, โกธิค และบาร็อค ตัวปราสาท ประดับด้วย หอคอยกับโดมสีชมพูและสีเหลืองที่มีระเบียงเชื่อมซึ่ง เมื่อการเดินผ่านทางระเบียงนี้ทําให้ความรู้สึกเหมือน ก้าวผ่านเข้าไปในโลกของเทพนิยาย นอกจากนี้บน เนินเขาสูงยังมีซากของปราสาทมัวร์ที่มีอายุตั้งแต่ ศตวรรษที่ 8 ที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ ให้เป็นมรดกโลกในปี 1995
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นําท่านเดินทางสู่ “แหลม โรก้า” CAPO DA ROCA (17 กม.) แหลมที่อยู่ทางตะวันตกสุดของยุโรป แผ่นดินยุโรป ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ สามารถ มองเห็นทิวทัศน์มุมกว้างของ เทือกเขา Serra de Sintraและเป็นเวลาหลายศตวรรษที่ทวีปได้สิ้นสุดลงที่นี่ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของประภาคารซึ่งเปิดตัวในปี 1772 หนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดในโลก จากนั้นกลับสู่กรุงลิสบอน เข้าสู่ช้อปปิ้งย่านถนน Avenida da Liberdade ถนนสายช้อปปิ้งที่สร้างในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากถนน Champs-Élysées ของปารีส เป็นถนนที่มีต้นไม้เรียงรายซึ่งเชื่อมระหว่างจัตุรัสสองแห่ง (Praça dos Restauradores และ Praca Marques de Pombal) และเป็นที่รู้จักจากร้านค้าหรูหรา เป็นถนนที่เชื่อมจากเขตเมืองเก่าผ่าใจกลางเมืองไปสุดทางที่จัตุรัสมาร์เกส เดอ ปอมบาล ที่มีอนุสาวรีย์ของมาร์เกส เดอ ปอมบาล ยืนโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนเสาสูง อิสระกับการช้อปปิ้งสินค้าชื่อดังมากมาย
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก : HOLIDAY INN LISBON หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหาร ชม ‘หอคอยเบเล็ง” ป้อมรักษาการณ์ดูแล การเดินเรือเข้าออก และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสํารวจและค้นพบโลกของ วาสโก ดากามา // ชมอนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960เพื่อ ฉลองการครบ 500 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชาย เฮนรี่ เดอะเนวิเกเตอร์ เก็บภาพอนุสาวรีย์ Cristo Rai คล้ายกันกับที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร อนุสาวรีย์อัน งดงามและตระการตาของพระคริสต์กษัตริย์ตั้งตระหง่านเหนือแม่น้ําเทกัส ให้ทัศนียภาพอันงดงาม ของเมือง ทิวทัศน์ของสะพาน 25 de Abril “สะพาน 25 เมษายน” สะพาน แขวน แขวนที่ยาวที่สุดในยุโรปประเทศ จากบราซิล ชมมหาวิหารเจอโรนิ โมส (Jeronimos Monastery) อันงดงามด้วยศิลปะผสมผสานที่เรียกว่า มานูเอลไลน์โดยการแกะสลักหินด้วยลวดลายที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือ รวมทั้งยังเป็นสถานที่เก็บศพ ของ วาสโก ดา กามา อีกด้วย ได้เวลาสมควรนําท่าน เดินทางสู่ สนามบินลิสบอน
16.35 เดินทางสู่กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน เตอร์กิชแอร์ไลน์ (Turkish Airlines) เที่ยวบิน TK1760
00.15 เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี รอเปลี่ยนเครื่อง (1.30 ชั่วโมง)
01.55 เดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน เตอร์กิชแอร์ไลน์ (Turkish Airlines) เที่ยวบิน TK068
15.00 เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-มาดริด // ลิสบอน-กรุงเทพฯ(หรือสลับประเทศก่อนหลัง)
2. ค่ารถปรับอากาศนําเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถที่ชํานาญเส้นทาง กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้ คนขับรถเกิน 12 ช.ม./วัน
3. ค่าธรรมเนียมในการยื่นวีซ่ายุโรปหรือกลุ่มเชงเก้นวีซ่า และค่าธรรมเนียมวีซ่า ทางสถานทูตไม่คืนให้ท่านไม่ว่าท่านจะผ่านการพิจารณาหรือไม่ก็ตาม
4. โรงแรมที่พักตามระบุหรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ใน แถบที่มีอุณหภูมิต่ำและราคาโรงแรมจะปรับขึ้น 3-4 เท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับงานเทศกาล เทรดแฟร์หรือการประชุม ต่างๆ อันเป็นผลที่ทําให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนย้ายเมือง โดยคํานึงถึงความเหมาะสมเป็นหลัก
5. ค่าอาหารที่ระบุในรายการ ให้ท่านได้เลิศรสกับอาหารท้องถิ่นในแต่ละประเทศ
6. ค่าบริการนําทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นําเที่ยวให้ความรู้ และคอยดูแลอํานวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
7. ค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) หากท่านอายุเกิน 75 ปี หรือไม่ได้เดินทางไปและกลับพร้อมกรุ๊ป ท่านต้องซื้อประกันเคี่ยวเพิ่ม
8. ค่าทิปพนักงานขับรถตลอดการเดินทาง
1. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %
2. ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ วันละ 100 บาท / ท่าน (1,100 บาท)
3. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ค่าเครื่องดื่มและอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ
4. ค่าผกผันของภาษีน้ํามันที่ทางสายการบินแจ้งเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
1.บริษัทฯ จะทําการยื่นวีซ่าของท่านก็ต่อเมื่อในคณะมีผู้สํารองที่นั่งครบ 15 ท่าน และได้รับคิวการตอบรับจากทาง สถานทูต เนื่องจากบริษัทฯ จะต้องใช้เอกสารต่างๆที่เป็นกรุ๊ปในการยื่นวีซ่า อาทิ ตั๋วเครื่องบิน ห้องพักที่คอนเฟิร์มมาจาก ทางยุโรป ประกันการเดินทาง ฯลฯ ทางท่านจะต้องรอให้คณะครบ 15 ท่าน จึงจะสามารถยื่นวีซ่าให้กับทางท่านได้อย่างถูกต้อง
2. หากในช่วงที่ท่านเดินทางคิววีซ่ากรุ๊ปในการยื่นวีซ่าเต็ม ทางบริษัทต้องขอสงวนสิทธิ์ในการยื่นวีซ่าเดี่ยว ซึ่งทางท่าน จะต้องเดินทางมายื่นวีซ่าด้วยตัวเอง ตามวัน และเวลานัดหมายจากทางสถานทูต โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยดูแล และอํานวยความสะดวก
3. เอกสารต่างๆที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กําหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กําหนด ท่านที่มีความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูต ต้องการ เพราะจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอํานวยความสะดวกในการยื่นวี ซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้พิจารณาว่าวีซ่าให้กับทางท่าน
4. กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณา และคณะสามารถออกเดินทางได้ ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้ ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่าและค่าดําเนินการ ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้นแม้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณา
- ค่ามัดจําตั๋วเครื่องบิน หรือตั๋วเครื่องบินที่ออกมาจริง ณ วันยื่นวีซ่า ซึ่งตั๋วเป็นเอกสารที่สําคัญในการยื่นวีซ่า หากท่านไม่ ผ่านการพิจารณา ตั๋วเครื่องบินถ้าออกตั๋วมาแล้วจะต้องทําการ REFUND โดยจะมีค่าธรรมเนียมที่ท่านต้องถูกหักบางส่วน และส่วนที่เหลือจะคืนให้ท่านภายใน 45-60 วัน (ตามกฎของแต่ละสายการบิน) ถ้ายังไม่ออกตั๋วท่านจะเสียแต่ค่ามัดจําตั๋ว ตามจริงเท่านั้น
- ค่าห้องพักในทวีปยุโรป ถ้าคณะออกเดินทางได้ และท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่า ตามกฎท่านจะต้องโดนค่ามัดจําห้อง ใน 2 คืนแรกของการเดินทางหากท่านไม่ปรากฏตัวตามวันที่เข้าพัก ทางโรงแรมจะต้องยึดค่าห้อง 100% ในทันที ทาง บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ และมีเอกสารชี้แจงให้ท่านเข้าใจ
5. หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่า แล้วยกเลิกการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%
ทางบริษัทเริ่มต้น และจบ การบริการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และ จะสํารองตั๋วเครื่องบิน หรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้นท่านควรจะให้กรุ๊ป FINAL 100% ก่อนที่จะสํารองยานพาหนะ
99/226 สุขสวัสดิ์30 แขวงบางมด เขต ทุ่งครุ จังหวัด กรุงเทพฯ 10140